เมื่อเรายืนอยู่พื้นดินนั้น
เราจะมองเห็นดินเป็นเพียงแผ่นดินหรือพื้นผิวทีมี
2 มิติ คือ มีความกว้างและความยาว แต่หากว่าเราขุดดินลงไปจนเป็นหลุมขนาดใหญ่
จะเห็นว่าดินมีมิติที่
3 คือมีความลึกหรือความหนา และเมื่อมองตามความลึกลงไปตามแนวดิ่งจะเห็นว่าดินนั้นมีการทับถมกันเป็นชั้นๆ
โดยที่แต่ละชั้นจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของสิ่งที่มีอยู่ภายในดิน
เช่น สีดิน เนื้อดิน ชนิดของวัสดุหรือสิ่งที่ปะปนอยู่ในดิน
เป็นต้น
นักวิทยาศาสตร์ทางดินหรือนักปฐพีวิทยา
เรียกผิวด้านข้างของหลุมดินที่ตัดลงไปจากผิวหน้าดินตามแนวดิ่งซึ่งปรากฏให้เห็นชั้นต่างๆ
ภายในดินนี้ว่า หน้าตัดดิน
(soil profile) และเรียกชั้นต่างๆ
ในดินที่วางตัวขนานกับผิวหน้าดินว่า ชั้นดิน
(soil horizon)
การศึกษาหน้าตัดดินมักจะทำกันในช่วงความลึกตั้งแต่ผิวหน้าดินลงไปประมาณ
2 เมตร ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาลักษณะที่ปรากฏอยู่ในหน้าตัดดินบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
ประกอบกับข้อมูลผลการตรวจสอบสมบัติทางกายภาพและเคมีของดินบนและดินล่าง
จะทำให้เราสามารถแบ่งชนิดของดินออกเป็นกลุ่มและจัดหมวดหมู่ดินได้
ผู้ที่สนใจต้องการทราบข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะดินของประเทศไทยเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และการวางแผนทางด้านการเกษตรและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
สามารถติดต่อขอรับบริการข้อมูลได้ที่
สำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน
กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือ www.ldd.go.th
|