|
ดินสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ |
่แสดงว่า
- ดินนั้นมีอินทรียวัตถุอยู่ในดินมาก
หรือ เป็นดินที่เกิดจากการผุพังสลายตัวของหิน-แร่
ที่มีสีเข้ม เช่น หินภูเขาไฟพวกบะซอลท์ แกบโบร
- มักมีความอุดมสมบูรณ์สูง
เนื่องจากมีอินทรียวัตถุมาก
- ถ้าเป็นดินที่ลุ่มต่ำหน้าดินมีสีคล้ำและดินชั้นล่างมีสีเทา
เนื่องจากสภาพอับอากาศ จะต้องเตรียมการระบายน้ำ |
|
|
ดินสีขาวหรือสีเทาอ่อน |
แสดงว่า..
- อาจเกิดจากวัตถุต้นกำเนิดดิน
มาจากหินที่มีสีจาง หรือเป็ทรายมาก หรือ บริเวณที่มีสีจางนั้นเกิดกระบวนการทางดินที่ทำำให้ธาตุต่างๆ
ถูกชะล้างออกไปจากชั้นดินจนหมด เช่น ชั้นดิน E หรือเกิดจากการสะสมของปูน
(lime) หรือยิปซัม (gypsum) หรือเกลือชนิดต่างๆ ก็ได
- มักเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ้ มีการระบายน้ำดี
|
|
|
ดินสีเหลืองหรือสีแดง
|
แสดงว่า
-
เป็นดินที่มีอัตราการผุพังสลายตัวสูง
เนื่องจาก มีพวกออกไซด์ของเหล็กเคลือบผิวอนุภาคมาก
- มักเกิดในในบริเวณที่สูงตามเนินเขาหรือที่ราบไหล่เขา
- ดินเหล่านี้มีการระบายน้ำดีถึงดีมาก ถ้าดินมีการระบายน้ำในหน้าตัดดินดีอยู่เสมอ
ส่วนใหญ่จะมีสีแดง แต่ถ้าการระบายน้ำของดินไม่ดีเท่ากรณีแรก
ดินจะมีสีเหลือง |
|
|
ดินสีเทาปนน้ำเงิน
|
แสดงว่า
..
- ดินบริเวณนั้นอยู่ในสภาวะที่มีน้ำขังตลอด
- มีการระบายน้ำไม่เพียงพอ ทำให้สารประกอบของเหล็กอยู่ในรูปที่มีสีเทา |
|
|
ดินสีประ
(mottle color) หรือดินที่มีหลายสีผสมกัน
|
แสดงว่า ..
ดินบริเวณนั้น
อยู่ในสภาพที่มีน้ำแช่ขังสลับสภาพที่ดินแห้ง
โดยทั่วไปมักปรากฏเป็นจุดประสีเหลืองหรือสีแดงบนวัสดุพื้นสีเทา
เป็นผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงของสารประกอบของเหล็ก ที่จะแสดงสีเทาเมื่ออยู่ในสภาวะที่มีน้ำขัง
(ขาดออกซิเจน) และเปลี่ยนรูปเป็นสารที่ให้สีแดงเมื่ออยู่ในสภาวะดินแห้ง
(มีออกซิเจนมาก)
มักจะพบในดินนาซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลพอสมควร
ซึ่งน้ำระบายจากหน้าตัดจนแห้งได้ในฤดูแล้งหลังการเก็บเกี่ยว
|
|
|