1.
แบบก้อนกลม (granular) |
มีรูปร่างคล้ายทรงกลม
เม็ดดินมีขนาดเล็กประมาณ 1-10 มิลลิเมตร
มักพบในดินชั้นบนที่คลุกเคล้าด้วยอินทรียวัตถุ
โครงสร้างประเภทนี้ จะเกิดช่องว่างขนาดใหญ่
ขึ้นระหว่างเม็ดดิน ทำให้ดินมีความพรุนมาก
สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดีี |
|
|
|
|
|
2.
แบบก้อนเหลี่ยม (blocky) |
มีรูปร่างคล้ายกล่อง เม็ดดินมีขนาดประมาณ
1-5 เซนติเมตร มักพบในดินชั้นล่าง
โครงสร้างประเภทนี้ จะมีสภาพที่น้ำและอากาศซึมได้ในเกณฑ์ปานกลาง
|
|
|
|
|
|
3.
แบบแผ่น (platy) |
ก้อนดินมีรูปร่างแบน วางตัวในแนวราบ
และซ้อนเหลื่อมกันเป็นชั้น มักพบในดินชั้นบนที่ถูกบีบอัด
จากการบดไถของเครื่องจักรกล
โครงสร้างดินลักษณะนี้จะขัดขวางการไหลซึมของน้ำ
การระบายอากาศและการชอนไชของรากพืช |
|
|
|
|
|
4.
แบบแท่งหัวเหลี่ยม (prismatic) |
ก้อนดินมีรูปร่างเป็นแท่ง
มักพบในชั้นดินล่างของดินบางชนิด โดยเฉพาะดินเค็มที่มีการสะสมโซเดียมสูงๆ
หน่วยโครงสร้างแบบนี้มักมีขนาดใหญ่
คือมีความยาว 10-100 มิลลิเมตร เรียงตัวกันในแนวตั้ง
ถ้าส่วนบนของปลายแท่งมีรูปร่างแบนราบ |
|
|
|
|
|
5.
แบบแท่งหัวมน (columnar) |
ส่วนบนของปลายแท่งมีลักษณะโค้งมน
ปกคลุมด้วยเกลือ เม็ดดินมีขนาด 1-10
เซนติเมตร พบในดินชั้นล่าง
ของดินที่เกิดในเขตแห้งแล้ง และมีการสะสมของโซเดียมสูง
ดินที่มีโครงสร้างลักษณะนี้มักจะมีสภาพให้น้ำซึมได้น้อยถึงปานกลาง |
|
|