m31
ดินตื้นที่มีลูกรัง ก้อนกรวด หรือเศษหินปะปนมากภายในความลึก 50 ซม.จากผิวดิน พบในพื้นที่ดอนเขตดินชื้น
(กลุ่มชุดดินที่ 45)
           
ชุดดินชุมพร
ชุดดินหาดใหญ่
ชุดดินคลองชาก
ชุดดินหนองคล้า
ชุดดินยะลา
   
ลักษณะและสมบัติของดิน
 
 
     ดินตื้นที่มีชั้นลูกรังหรือก้อนกรวดมากกว่าร้อยละ 35 โดยปริมาตร เกิดจากตะกอนน้ำหรือเกิดอยู่กับที่ และไม่พบชั้นหินพื้นแข็งภายในความลึก 50 ซม.จากผิวดิน พบในสภาพพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบถึงเป็นลูกคลื่นลอนชัน พบในเขตที่มีฝนตกชุก เนื้อดินเป็นดินร่วนหรือดินเหนียวปนก้อนกรวดมาก และอาจพบก้อนกรวด ก้อนหิน หรือลูกรังกระจัดกระจายอยู่บนผิวหน้าดิน มีสีน้ำตาล สีเหลืองหรือสีแดง การระบายน้ำดี ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกรดปานกลาง

     ชุดดินที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ชุดดินชุมพร (Cp) ชุดดินหาดใหญ่ (Hy) ชุดดินคลองชาก (Kc) ชุดดินเขาขาด (Kkt) ชุดดินหนองคล้า (Nok) ชุดดินท่าฉาง (Tac) และชุดดินยะลา (Ya)
 
สภาพปัญหา/ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
 
    ดินตื้น มีชั้นลูกรังหรือก้อนกรวดปะปนในเนื้อดินมาก บางแห่งมีก้อนหิน ก้อนกรวด หรือลูกรังกระจัดกระจายทั่วไปอยู่บริเวณผิวหน้าดิน เป็นอุปสรรคต่อการไถพรวน และการชอนไชของรากพืช
     ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ ความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ มีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ และในพื้นที่ที่มีความลาดชันจะเกิดการชะล้างทลายสูญเสียหน้าดินได้ง่าย
 
ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช
 
 
     ดินในกลุ่มนี้ไม่เหมาะสมในการทำนา เนื่องจากมีสภาพพื้นที่สูงยากต่อการกักเก็บน้ำ
     ไม่ค่อยเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชไร่ หรือไม้ผลทั่วไป เนื่องจากสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลูกคลื่นลอนลาดถึงเป็นเนินเขา และดินมีชั้นก้อนกรวดหรือชั้นลูกรังภายในระดับความลึก 50 ซม. ซึ่งขัดขวางการเจริญเติบโตของรากพืช แต่อาจใช้ปลูกยางพารา มะม่วงหิมพานต์ สับปะรด และพัฒนาเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ได้
 
แนวทางการจัดการดิน
 
 
ในพื้นที่ที่หน้าดินมีเศษหิน ก้อนหินหรือลูกรัง ปริมาณมาก พื้นที่ที่มีความลาดชันสูงมากหรือพื้นที่ที่เป็นป่า ไม่ควรนำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ควรปล่อยไว้ให้เป็นพื้นที่ป่า สำหรับพื้นที่ทิ้งร้าง ควรปลูกไม้ใช้สอยโตเร็วหรือฟื้นสภาพป่าให้กลับคืนมา
 
    การปลูกพืชไร่ หรือพืชผัก
      ควรเลือกพื้นที่ที่มีหน้าดินหน้ามากกว่า 25 ซม. ในสภาพพื้นที่ราบเรียบถึงเป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย
     จัดระบบการปลูกพืชให้หมุนเวียนตลอดทั้งปี โดยมีการปลูกพืชบำรุงดินร่วมอยู่ด้วย
     ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 3-4 ตัน/ไร่ หรือหว่านเมล็ดถั่วพร้าอัตรา 10-12 กก./ไร่ เมล็ดถั่วพุ่มอัตรา 8-10 กก./ไร่ หรือปอเทืองอัตรา 6-8 กก./ไร่ ไถกลบระยะออกดอก ปล่อยไว้ 1-2 สัปดาห์ ก่อนปลูกพืชไร่ หรือพืชผัก      ปรับปรุงสภาพดินที่เป็นกรดจัดด้วยการใช้วัสดุปูนตามอัตราที่เหมาะสม
     พื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ควรมีการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสม เช่น ปลูกพืชปุ๋ยสด ปลูกพืชคลุมดิน วัสดุคลุมดิน ปลูกพืชแซม สร้างคันดิน การทำขั้นบันได การทำคูรับน้ำขอบเขา ทำแนวรั้วหญ้าแฝก การทำฐานเฉพาะต้น
สำหรับสภาพพื้นที่ที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดถึงเป็นลูกคลื่นลอนชัน ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชผัก
 
     การปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้น
     ขุดหลุมปลูกขนาด 75x75x75 ซม.
     ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยหน้าดินที่ไม่มีเศษหินหรือลูกรังร่วมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 25-50 กก./หลุม
บริเวณที่มีความลาดชันมาก ควรจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เช่น ปลูกพืชคลุมดิน ใช้วัสดุคลุมดิน ปลูกพืชแซม สร้างคันดิน การทำขั้นบันได การทำคูรับน้ำขอบเขา ทำแนวรั้วหญ้าแฝก การทำฐานเฉพาะต้น
     ใช้ปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำ และลิตภัณฑ์สารเร่ง พด.3 และ พด.7
     พัฒนาแหล่งน้ำและระบบการให้น้ำในพื้นที่ปลูก
 
 
     

ส่วนมาตรฐานการสำรวจจำแนกดินและที่ดิน
สำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
...สงวนลิขสิทธิ์...