m7
ดินที่มีการยกร่อง พบในพื้นที่ลุ่ม
( กลุ่มชุดดินที่ 8)
           
ชุดดินดำเนินสะดวก
ชุดดินสมุทรสงคราม
   
ลักษณะและสมบัติของดิน
 
 
     ดินยกร่องที่เกิดจากการดัดแปลงพื้นที่ลุ่มทำนามาใช้ปลูกพืชไร่ พืชผักหรือไม้ผล มีการยกร่องและทำคันดินอัดแน่นล้อมรอบ เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกน้ำท่วมหรือน้ำไหลบ่าท่วมขังในฤดูฝน ลักษณะและสมบัติของดินจึงไม่แน่นอน แต่จะมีลักษณะการทับถมเป็นชั้นๆ อันเนื่องมาจากการยกร่อง และการขุดลอกร่องคูน้ำอยู่เป็นประจำ ดินในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำถึงสูง ขึ้นอยู่กับการจัดการของเกษตรกรและมีระดับน้ำใต้ดินตื้น

     ชุดดินที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ชุดดินดำเนินสะดวก (Dn) ชุดดินสมุทรสงคราม (Sso) และชุดดินธนบุรี (Tb)
 
สภาพปัญหา/ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
 
  สภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำที่มีระดับน้ำใต้ดินตื้นหรืออยู่ใกล้ผิวดิน มีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมขังในฤดูฝน ทำความเสียหายหรือมีผลกระทบต่อผลผลิต
ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ และอาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เป็นดินเปรี้ยวจัด หรือดินเค็ม เป็นต้น
 
ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช
 
 
     ดินในกลุ่มนี้ โดยทั่วไปเหมาะสมสำหรับปลูกพืชตลอดปี เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงด้านป้องกันน้ำท่วม และการระบายน้ำของดินเรียบร้อยแล้ว โดยเกษตรกรดำเนินการยกร่องและปรับปรุงให้ดีขึ้นจนแตกต่างไปจากสภาพธรรมชาติเดิมอย่างสิ้นเชิง
 
แนวทางการจัดการดิน
 
 
    ในพื้นที่มีการยกร่องใหม่

     ควรมีวิธีการยกร่องที่ถูกต้อง ไม่ควรนำดินชั้นล่างขึ้นมาไว้ข้างบน เนื่องจากดินมีโครงสร้างไม่ดี และมีอินทรียวัตถุต่ำมาก
     ยกร่องให้มีสันร่องกว้าง 6-8 เมตร ร่องคูน้ำกว้าง 1.0-1.5 เมตร ลึก 0.5-1.0 เมตร มีระบบควบคุมน้ำในร่องแปลงปลูกไม่ให้อยู่ตื้นเกินไปหรืออยู่ใกล้ผิวดินและป้องกันน้ำท่วม
     ขุดหลุมปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ขนาด 50x50x50 ซม. หรือ 75x75x75 ซม. พร้อมปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก อัตรา 15-50 กก./หลุม ขึ้นอยู่สภาพปัญหาของดิน (ดูจากพื้นที่ใกล้เคียง) หรือหว่านพืชปุ๋ยสด ถั่วพร้าอัตรา 8-12 กก./ไร่ ถั่วพุ่มอัตรา 6-10 กก./ไร่ หรือปอเทืองอัตรา 4-8 กก./ไร่ ไถกลบก่อนออกดอก ปล่อยไว้ 1-2 สัปดาห์ ก่อนปลูก
     ภายหลังเก็บผลผลิต มีการใช้ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก
พัฒนาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงที่พืชขาดน้ำ
 
     ในพื้นที่ยกร่องที่ทำการเกษตรมานานแล้ว

     ควรขุดลอกคลองอยู่เป็นประจำ ตะกอนที่นำขึ้นมา ควรกองไว้ระหว่างต้นและนำไปแปรสภาพและปรับปรุงก่อนที่จะนำไปใช้
     ควบคุมระดับน้ำในท้องร่องให้คงที่ เพื่อป้องกันการเน่าเสียของน้ำ
     ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูกภายหลังเก็บผลผลิต
     แก้ไขปัญหาของดิน เช่น กรณีดินเป็นกรด ควรปรับปรุงดินด้วยการหว่านวัสดุปูนบนสันร่อง และร่องน้ำ ในอัตรา 0.5-1.0 ตัน/ไร่ หรือใส่อัตรา 5 กก./หลุม หรือ ถ้าเป็นดินเค็ม ใช้ยิปซัมคลุกลงในดิน และใช้น้ำล้าง เป็นต้น
 
 
     

ส่วนมาตรฐานการสำรวจจำแนกดินและที่ดิน
สำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
...สงวนลิขสิทธิ์...