|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชุดดินชะอำ |
ชุดดินเชียรใหญ่ |
ชุดดินมูโน๊ะ |
ชุดดินองครักษ์ |
|
|
|
|
|
|
ลักษณะและสมบัติของดิน |
|
|
ดินเปรี้ยวจัดที่เกิดจากตะกอนผสมของตะกอนน้ำและตะกอนทะเล
พบแพร่กระจายอยู่ในบริเวณพื้นที่ลุ่มภาคกลางหรือพื้นที่ราบตามชายฝั่งทะเล
เนื้อดินเป็นดินเหนียวหรือดินเหนียวจัด มีการระบายน้ำเลว
ดินบนมีสีดำหรือสีเทา มีจุดประสีน้ำตาล สีเหลือง
สีแดง ดินล่างมีสีเทาหรือเทาปนเขียว ลักษณะเด่นคือ
จะพบจุดประสีเหลืองฟางข้าวของสารจาโรไซต์ หรือมีชั้นดินที่มีความเป็นกรดรุนแรง
(pH น้อยกว่า 4.0) อยู่ในระดับตื้นกว่า 50 ซม.จากผิวดิน
ปฏิกิริยาดินเป็นกรดรุนแรงมาก มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงต่ำ
สำหรับในบางพื้นที่ที่มีน้ำทะเลหรือน้ำกร่อยท่วมถึงเป็นครั้งคราว
อาจพบดินที่มีทั้งลักษณะของดินเปรี้ยวจัดระดับตื้นและเป็นดินเค็มที่มีการสะสมเกลือสูง
ดินบนมีสีดำหรือสีเทาที่มีค่าความเป็นกรดรุนแรงมาก
ส่วนดินล่างมีเนื้อดินเป็นดินเลน มีค่าปฏิกิริยาดินเป็นกลางถึงเป็นด่างแก่
ในฤดูแล้งอาจจะมีคราบเกลือที่ผิวดินหน้า
ชุดดินที่อยู่ในกลุ่มนี้
ได้แก่ ชุดดินชะอำ (Ca) ชุดดินเชียรใหญ่ (Cyi) ชุดดินมูโน๊ะ
(Mu) และชุดดินองครักษ์ (Ok)
|
|
|
|
สภาพปัญหา/ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน |
|
|
ดินเป็นกรดรุนแรงมากหรือเป็นดินเปรี้ยวจัดภายในความลึก
50 ซม.จากผิวดิน เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารหรือบางส่วนถูกตรึงอยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
อาจเกิดความเป็นพิษของเหล็กและอะลูมินัมที่รุนแรงในระดับตื้น
คุณภาพน้ำเป็นกรดรุนแรงมาก ไม่เหมาะสมต่อการเกษตรและใช้อุปโภคบริโภค
โครงสร้างดินแน่นทึบ
ดินแห้งแข็งและแตกระแหง ทำให้ไถพรวนยาก มักมีน้ำท่วมขังในฤดูฝน
ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำ และความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ
บางพื้นที่เป็นทั้งดินเปรี้ยวและเค็ม
มีเกลือสะสมสูงจนเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของพืช
มีคราบเกลือกระจัดกระจายอยู่ตามผิวหน้าดินในช่วงหน้าแล้ง
คุณภาพน้ำจะเค็ม ขาดแคลนแหล่งน้ำจืด
|
|
|
|
ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช |
|
|
ดินในกลุ่มนี้เหมาะสมสำหรับการทำนามากกว่าปลูกพืชอย่างอื่น
แต่ผลผลิตข้าวที่ได้ต่ำ เพราะเป็นดินเปรี้ยวจัดในระดับตื้น
และบางพื้นที่เป็นดินเปรี้ยวจัดและเค็มจัด
ไม่เหมาะสมสำหรับ การปลูกพืชไร่
ไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชผักต่างๆ เนื่องจากจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงดินสูง |
|
|
|
แนวทางการจัดการดิน |
|
|
ปลูกข้าว |
เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดินโดยการไถกลบตอซังข้าว
หรือไถกลบพืชปุ๋ยสด เช่น โสนอัฟริกันหรือโสนอินเดีย
(หว่านเมล็ดพันธุ์ อัตรา 4-6 กก./ไร่ ไถกลบเมื่ออายุ
50-70 วัน ปล่อยไว้ 1-2 สัปดาห์ แล้วปลูกข้าว) ร่วมกับการใส่ปุ๋ยสูตร
16-20-0 อัตรา 25-30 กก./ไร่ ในระยะปักดำ และใส่ปุ๋ยยูเรีย
อัตรา 5-10 กก./ไร่ หลังปักดำ 35-45 วัน
ลดและควบคุมความเป็นกรดจัดมากของดินโดยการหว่านวัสดุปูน
เช่น ปูนมาร์ล หรือหินปูนฝุ่น ในอัตรา 1-2 ตัน/ไร่
ให้ทั่วแปลงปลูกแล้วไถคลุกเคล้าให้เข้ากับดิน ปล่อยน้ำขังในพื้นที่ประมาณ
3 สัปดาห์แล้วระบายน้ำออกเพื่อชะล้างความเป็นกรดในดิน
จากนั้นปล่อยน้ำขังอีกครั้งเพื่อทำเทือกปักดำ เลือกพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพความเป็นกรดในดินมาปลูก
เช่น ขาวตาหยก ขาวลูกแดง สีรวง ดอนทราย ลูกเหลือง
กข 7 กข 21 กข 23 ช่อนางเอื้อง เป็นต้น
ในพื้นที่ที่มีดินเค็มจัดควรปล่อยน้ำแช่ขังและระบายน้ำออก
2-3 ครั้ง ก่อนปลูกข้าว
พัฒนาแหล่งน้ำชลประทานไว้ใช้ในช่วงที่ข้าวขาดน้ำหรือใช้ทำนาครั้งที่
2 ปลูกพืชไร่ พืชผักหรือพืชตระกูลถั่วหลังเกี่ยวข้าว
ใช้ล้างความเป็นกรดของดิน และควบคุมไม่ให้ดินกรดเพิ่มขึ้น |
|
ปลูกพืชไร่
พืชผัก ไม้ผล หรือไม้ยืนต้น |
ปรับสภาพพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในฤดูฝนโดยการยกร่องแบบถาวร
ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนจากสภาพพื้นที่นามาปลูกพืชไร่แบบถาวร
โดยให้มีสันร่องกว้าง 6-8 เมตร หรือตามชนิดพืชที่ปลูก
มีร่องคูน้ำกว้าง 1.0-1.5 เมตร ลึกถึงชั้นดินเลนของตะกอนน้ำทะเล
มีคันดินอัดแน่นล้อมรอบ แต่ถ้าปลูกพืชไร่พืชผักเฉพาะช่วงก่อนหรือหลังปลูกข้าว
สามารถยกร่องแบบเตี้ยหรือทำร่องระบายน้ำระหว่างแปลง
เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการมีน้ำท่วมขัง
ปรับปรุงดินด้วยอินทรีย์วัตถุ
เช่น ไถกลบพืชปุ๋ยสด ปอเทืองอัตรา 6-8 กก./ไร่ หรือถั่วพุ่มอัตรา
8-10 กก./ไร่ หรือถั่วพร้าอัตรา 10-12 กก./ไร่ ไถกลบเมื่ออายุ
50-70 วันหลังปลูกหรือออกดอก 50 เปอร์เซ็นต์ ปล่อยทิ้งไว้
1-2 สัปดาห์ หรือปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกอัตรา
2-3 ตัน/ไร่
ปรับสภาพความเป็นกรดในดินด้วยการคลุกเคล้าวัสดุปูน
เช่น ปูนมาร์ล หินปูนฝุ่นหรือปูนขาวบนสันร่องและร่องคูน้ำ
ในอัตรา 1-2 ตัน./ไร่ หรือ อัตรา 7 กก./หลุม คลุกเคล้าให้เข้ากับดินทิ้งไว้ประมาณ
15 วันก่อนปลูกพืช
ถ้าปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น
ควรขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 ซม. และปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา
25-50 กก./หลุม เพื่อเพิ่มความร่วนซุย และความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดิน
ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก ถ้าดินมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นปรับปรุงด้วยวัสดุปูนอัตรา
1-2 ตัน/ไร่
พัฒนาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงที่พืชขาดน้ำ
ใช้ล้างความเป็นกรดในดิน และควบคุมไม่ให้ดินเป็นกรดเพิ่มขึ้น |
|
|
|
|
|
|