m2
ดินเปรี้ยวจัดระดับลึก พบชั้นที่เป็นกรดรุนแรงในช่วงความลึกมากกว่า 100 ซม.จากผิวดิน พบในพื้นที่ลุ่ม
( กลุ่มชุดดินที่ 2)
           
ชุดดินอยุธยา
ชุดดินบางเขน
ชุดดินบางน้ำเปรี้ยว
ชุดดินมหาโพธิ
ชุดดินท่าขวาง
   
ลักษณะและสมบัติของดิน
 
 
     ดินเปรี้ยวจัดที่เกิดจากตะกอนผสมของตะกอนลำน้ำและตะกอนทะเล มักพบในบริเวณพื้นที่ลุ่มภาคกลางหรือพื้นที่ชายฝั่งทะเล เนื้อดินเป็นพวกดินเหนียวหรือดินเหนียวจัด มีการระบายน้ำเลว ดินบนสีเทาหรือสีเทาเข้ม ดินล่างสีเทา มีจุดประสีน้ำตาล สีน้ำตาลปนเหลือง หรือสีแดง มักพบชั้นดินเหนียวสีเทาที่มีจุดประสีเหลืองฟางข้าวของสารจาโรไซต์ หรือมีชั้นดินที่มีความเป็นกรดรุนแรงมาก (pH น้อยกว่า 4.0) อยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 100-150 ซม.จากผิวดินวางทับอยู่บนชั้นดินเลนสีเทาปนเขียวหรือชั้นตะกอนน้ำทะเลที่มีศักยภาพในการเกิดดินกรดกำมะถัน มีน้ำท่วมขังในฤดูฝน ความอุดมสมบูรณ์ของดินอยู่ในระดับปานกลาง

     ชุดดินที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ชุดดินอยุธยา (Ay) ชุดดินบางเขน (Bn) ชุดดินบางน้ำเปรี้ยว (Bp) ชุดดินมหาโพธิ (Ma) และชุดดินท่าขวาง (Tq)
 
สภาพปัญหา/ข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
 
    เนื้อดินเป็นดินเหนียว หน้าดินแตกระแหงในฤดูแล้ง เป็นข้อจำกัดต่อการปลูกพืชไร่และพืชผัก
ดินเป็นกรดจัดมากและมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดความเป็นกรดเพิ่มขึ้นในชั้นดินล่าง เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหาร บางส่วนถูกตรึงอยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
     คุณภาพน้ำเป็นกรดไม่เหมาะสมต่อการเกษตร และใช้อุปโภคบริโภค ขาดแคลนแหล่งน้ำจืด มักประสบปัญหาน้ำท่วมขังสูง ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง
 
ความเหมาะสมสำหรับการปลูกพืช
 
 
    ดินในกลุ่มนี้เหมาะสมสำหรับการทำนาในช่วงฤดูฝน และสามารถพัฒนาพื้นที่เพื่อปลูกพืชไร่และพืชผักที่มีอายุสั้นต่างๆ บางชนิดได้ในช่วงก่อนและหลังการปลูกข้าวได้ ถ้าหากมีแหล่งน้ำเพียงพอ หรืออยู่ในเขตชลประทาน
     ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชไร่ ไม้ผล หรือไม้ยืนต้น เนื่องจากมีข้อจำกัดที่รุนแรงจากการที่มีน้ำแช่ขังนานในฤดูฝน แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ปลูกพืชเหล่านี้ จำเป็นต้องมีการเตรียมพื้นที่และหลุมปลูกที่เหมาะสม โดยไม่นำดินล่างมาใช้ปลูก และปรับปรุงดินด้วยวัสดุปูน เพื่อลดความรุนแรงของความเป็นกรดในดิน
 
แนวทางการจัดการดิน
 
 
     ปลูกข้าว

    ไถพรวนดินในขณะที่ดินมีความชื้นที่เหมาะสมที่ระดับความลึกแตกต่างกันไปในแต่ละปี เพื่อป้องกันการเกิดชั้นดานแข็งใต้ชั้นไถพรวน
     ปรับปรุงบำรุงดินด้วยการไถกลบตอซัง หรือปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 ตัน/ไร่ หรือปลูกพืชปุ๋ยสดแล้วไถกลบ โดยหว่านเมล็ดพันธุ์โสนอัฟริกันหรือโสนอินเดียอัตรา 4-6 กก./ไร่ แล้วไถกลบเมื่ออายุ 50-70 วัน ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ ก่อนปลูกพืช หรือไถคลุกเคล้าวัสดุปรับปรุงดินอย่างอื่น เช่น ขี้เลื่อย แกลบ กากน้ำตาล เป็นต้น เพื่อเพิ่มความร่วนซุยในดิน
     ลดและควบคุมความเป็นกรดจัดมากของดินโดยหว่านวัสดุปูน เช่น ปูนมาร์ล หรือหินปูนฝุ่น อัตรา 500 กก./ไร่ ให้ทั่วแปลงปลูกแล้วไถคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใช้น้ำล้างความเป็นกรดของดินโดยปล่อยน้ำขังในพื้นที่ประมาณ 10 วัน ระบายน้ำออกแล้วขังน้ำใหม่ ทำประมาณ 4-5 ครั้ง ตลอดฤดูเพาะปลูก
     ใช้พันธุ์ข้าวที่แนะนำ เช่น ขาวตาหยก ไข่มุก สีรวง ลูกเหลือง ขาวดอกมะลิ105 กข 7 กข 13 สุพรรณบุรี 90 หรือเล็บมือนาง เป็นต้น ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 25-40 กก./ไร่ ในระยะปักดำ และใช้ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 5-10 กก./ไร่ หลังปักดำ 35–45 วัน หรือในระยะที่ข้าวตั้งท้อง
     พัฒนาแหล่งน้ำชลประทานไว้ใช้ในช่วงที่ข้าวขาดน้ำหรือใช้ทำนาครั้งที่ 2 ปลูกพืชไร่ พืชผักหรือพืชตระกูลถั่วหลังเกี่ยวข้าว หรือใช้ล้างความเป็นกรดของดินและควบคุมไม่ให้เกิดกรดเพิ่มขึ้นในดิน
 
     ปลูกพืชไร่ พืชผัก ไม้ผล หรือไม้ยืนต้น
    
     กรณีปลูกพืชไร่หรือพืชผักในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวหรือในช่วงฤดูแล้ง ควรยกร่องสูงประมาณ 10-20 ซม.ทำร่องระบายน้ำในแปลงห่างกันประมาณ 8-12 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง แต่ถ้าจะเปลี่ยนสภาพพื้นที่นาเป็นพื้นที่ปลูกพืชไร่แบบถาวร จำเป็นต้องปรับสภาพพื้นที่โดยการยกร่องแบบถาวร ให้มีสันร่องกว้าง 6-8 เมตร ให้สันร่องสูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมถึง มีคูระบายน้ำกว้างประมาณ 1-1.5 เมตร ลึก 0.5-1 เมตร หรือสร้างคันดินอัดแน่นล้อมรอบพื้นที่
     ปรับปรุงบำรุงดินและลดความเป็นกรดในดิน ด้วยการไถกลบพืชปุ๋ยสด (หว่านถั่วพร้าอัตรา 8-10 กก./ไร่ ถั่วพุ่มอัตรา 6-8 กก./ไร่ หรือปอเทืองอัตรา 4-6 กก./ไร่) แล้วไถกลบก่อนออกดอก ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์ ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกอัตรา 1-2 ตัน/ไร่ ร่วมกับการไถคลุกเคล้าวัสดุปูน เช่น ปูนมาร์ล หินปูนฝุ่น หรือปูนขาว อัตรา 500 กก./ไร่ ให้ทั่วแปลงปลูกและหว่านในคูน้ำ ถ้าปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50 ซม. ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 15-25 กก./หลุม ร่วมกับวัสดุปูนอัตรา 5 กก./หลุม
     ใส่ปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูกร่วมกับการใช้วัสดุปูน อัตรา 500 กก./ไร่ เมื่อดินเป็นกรดเพิ่มขึ้น
     พัฒนาแหล่งน้ำและระบบการให้น้ำในแปลงปลูกพืช ไว้ใช้ในช่วงที่พืชขาดน้ำ ใช้ล้างความเป็นกรดในดิน และควบคุมไม่ให้ดินเป็นกรดเพิ่มขึ้น
 
 
     

ส่วนมาตรฐานการสำรวจจำแนกดินและที่ดิน
สำนักสำรวจดินและวางแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
...สงวนลิขสิทธิ์...